นโยบายต่าง ๆ บนเว็บไซต์

คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice)
ของระบบเรื่องร้องเรียนการทุจริต ของสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม

 คำประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว (“ประกาศ”) นี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ท่านซึ่งเป็นผู้ใช้งานระบบเรื่องร้องเรียนการทุจริต ของสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “กิจกรรมการประมวลผล”) ได้ทราบและเข้าใจรูปแบบการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผย (“ประมวลผล”) ข้อมูลส่วนบุคคลที่สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม (ซึ่งต่อไปในประกาศนี้ เรียกว่า “สปค.” หรือ “เรา”) ดำเนินการ ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลในข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวมจากท่านเพื่อการดำเนินการภายใต้กิจกรรมการประมวลผลนี้

 สปค. ได้ทำการพัฒนา “ระบบเรื่องร้องเรียนการทุจริต” เพื่อรับแจ้งเรื่องร้องเรียนการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานของกระทรวงคมนาคม และส่งต่อให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ตรวจสอบข้อเท็จจริงและแก้ไขปัญหาต่างๆ เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม

คำนิยาม

 “ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายความถึง ข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวบุคคลนั้นได้ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม แต่ไม่รวมถึงข้อมูลของผู้ถึงแก่กรรมโดยเฉพาะ

 “ท่าน” หมายความถึง เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

  “ผู้ใช้งานระบบเรื่องร้องเรียนการทุจริต ของสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม” หมายความถึง ประชาชนที่เป็นผู้ร้องเรียน และเจ้าหน้าที่ ของ สปค. ที่เกี่ยวข้อง

 ทั้งนี้ สปค. ดำเนินการเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ดังนี้

1. ฐานกฎหมายในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

 1.1 สปค. เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้ฐานกฎหมายดังต่อไปนี้
  1.1.1 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจสาธารณะหรือการใช้อำนาจรัฐที่ได้มอบให้แก่ สปค.
  1.1.2 เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของ สปค. หรือของบุคคลอื่น โดยประโยชน์ดังกล่าวมีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  1.1.3 เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาซึ่งท่านเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญา
  1.1.4 เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  1.1.5 เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเกี่ยวข้องกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ
  1.1.6 เป็นการปฏิบัติตามกฎหมายของ สปค.
  1.1.7 ได้รับความยินยอมที่สมบูรณ์จากท่าน ในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต้องได้รับความยินยอมของท่าน

2. วัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 สปค. ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้
 สปค. ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ เป็นความจำเป็นในการรับเรื่องร้องเรียนการทุจริตเพื่อส่งต่อให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องร้องเรียนนั้น ๆ นำไป ตรวจสอบ แก้ไขปัญหา และป้องกันการทุจริต ทำให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม

3. ข้อมูลส่วนบุคคลที่ สปค. เก็บรวบรวม

เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ได้แจ้งในข้อ 2. สปค.เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านดังรายการต่อไปนี้
 3.1 แหล่งข้อมูลและรายการข้อมูลส่วนบุคคลที่เก็บรวบรวม มีดังนี้

แหล่ง/วิธีการเก็บรวบรวม รายการข้อมูลส่วนบุคคล
1) ข้อมูลที่เก็บโดยตรงผ่านการกรอกข้อมูลผ่านระบบเรื่องร้องเรียนการทุจริต ของสำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม กรณีท่านเป็นผู้ใช้งานระบบเรื่องร้องเรียนการทุจริตที่เป็นผู้ร้องเรียน
  • ชื่อ-นามสกุล
  • ที่อยู่
  • ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
  • หมายเลขโทรศัพท์

 3.2 จุดประสงค์การใช้งานข้อมูลส่วนบุคคล

จุดประสงค์ในการใช้ข้อมูล รายการข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้
เป็นความจำเป็นในการรับเรื่องร้องเรียนการทุจริตเพื่อส่งต่อให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่เกี่ยวข้องกับเรื่องร้องเรียนนั้น ๆ นำไป ตรวจสอบ แก้ไขปัญหา และป้องกันการทุจริต ทำให้เกิดความโปร่งใสในการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคม
  • ชื่อ-นามสกุล
  • ที่อยู่
  • ไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์
  • หมายเลขโทรศัพท์

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

 สปค. อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อประเภทของบุคคลและช่องทางดังต่อไปนี้
 4.1 เจ้าหน้าที่ของรัฐ หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ หรือบุคคลอื่นเพื่อการดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด คำสั่งของผู้มีอำนาจ คำสั่งหรือหมายศาล เป็นต้น
 4.2 เจ้าหน้าที่ของหน่วยงานสังกัดกระทรวงคมนาคม
 4.3 เจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ
 4.4 เจ้าหน้าที่ของ สปค. และ/หรือ ผู้ที่เกี่ยวข้อง

5. สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 ของท่าน

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒ เมื่อบทบัญญัติในส่วนที่เกี่ยวกับสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
 5.1 สิทธิในการเข้าถึง รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน รวมถึงขอให้เปิดเผยที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ สปค. เก็บรวบรวมโดยไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน เว้นแต่กรณีที่ สปค. มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาลและกรณีที่การขอเข้าถึงและรับสำเนาของท่านจะส่งผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
 5.2 สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน เพื่อให้มีความถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
 5.3 สิทธิในการขอให้ สปค. ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้
  5.3.1 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ สปค. ทำการตรวจสอบตามคำร้องขอของท่านให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง สมบูรณ์และเป็นปัจจุบัน
  5.3.2 ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านถูกเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยโดยมิชอบด้วยกฎหมาย
  5.3.3 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ที่ สปค. ได้แจ้งแก่ท่านในการเก็บรวบรวม แต่ท่านประสงค์ให้ สปค. เก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปเพื่อประกอบการใช้สิทธิตามกฎหมายของท่าน
  5.3.4 เมื่ออยู่ในช่วงเวลาที่ สปค. กำลังพิสูจน์ให้ท่านเห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือตรวจสอบความจำเป็นในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์สาธารณะ อันเนื่องมาจากการที่ท่านได้ใช้สิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
 5.4 สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่ สปค. มีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น สปค. สามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะตามภารกิจของ สปค.)
 5.5 สิทธิในการถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้ เว้นแต่มีข้อจำกัดสิทธิในการถอนความยินยอม โดยกฎหมายหรือสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่ท่าน ทั้งนี้ การถอนความยินยอมย่อมไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไปแล้ว
 5.6 สิทธิในการขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านจาก สปค. ได้ ในกรณีที่ สปค. ได้ทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิ ดังต่อไปนี้
  5.6.1 ขอให้ สปค. ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
  5.6.2 ขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ สปค. ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลในรูปแบบดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นโดยตรง เว้นแต่โดยสภาพทางเทคนิคไม่สามารถทำได้
 5.7 สิทธิในการขอให้ สปค. ดำเนินการลบ หรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูล ที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นท่านได้ ในกรณีดังต่อไปนี้
  5.7.1 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่านหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ตามวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  5.7.2 เมื่อท่านถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและ สปค. ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ต่อไป
  5.7.3 เมื่อท่านคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามข้อ 5.5
  5.7.4 เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายตามที่กำหนดไว้ในหมวดนี้
 5.8 สิทธิในการร้องเรียนในกรณีที่ สปค. ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติหรือประกาศที่ออก ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ๒๕๖๒

6. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

 สปค. จะจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อการปฏิบัติหน้าที่และการให้บริการภายใต้วัตถุประสงค์โดยชอบด้วยกฎหมาย ของ สปค. และ สปค. จะทำการลบ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านเมื่อหมดความจำเป็นในการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ที่ได้แจ้งแก่ท่าน อย่างไรก็ตามในกรณีที่ สปค. มีความจำเป็นในการเก็บรักษาข้อมูลบางส่วนเพื่อประโยชน์ของท่าน เช่น กรณีที่ท่านได้ใช้สิทธิหรือมีข้อพิพาทหรือคดีความ สปค. ขอสงวนสิทธิในการเก็บรักษาข้อมูลนั้นต่อไปจนกว่าภารกิจดังกล่าวจะมีข้อกำหนดให้ยกเลิก หรือข้อพิพาทนั้นจะได้มีคำสั่งหรือคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว

7. การรักษาความมั่นคงปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคล

 สปค. ได้กำหนดนโยบายและแนวปฏิบัติในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ของ สปค. เพื่อการรักษาความมั่นคงปลอดภัยที่เหมาะสม ป้องกันการสูญหาย เข้าถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนนบุคคลของท่าน โดยปราศจากอำนาจ หรือโดยมิชอบ

8. การเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล

 สปค. ได้กำหนดให้เจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นผู้ใช้งานระบบเรื่องร้องเรียนการทุจริต ของ สปค. เท่านั้นที่จะสามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านได้ โดย สปค. จะดำเนินการให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามประกาศนี้อย่างเคร่งครัด

9. การเปลี่ยนแปลงแก้ไขประกาศเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัว

 สปค. อาจมีการปรับปรุงประกาศนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาจะมีความเหมาะสม เป็นปัจจุบัน และสอดคล้องตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง หาก สปค. มีการปรับปรุงแก้ไขประกาศนี้ สปค.จะแสดงประกาศเวอร์ชันล่าสุดไว้บนช่องทางการเข้าใช้ระบบเรื่องร้องเรียนการทุจริต ของ สปค. และอาจจะแจ้งให้ท่านทราบผ่านช่องทางต่าง ๆ ตามความเหมาะสม สปค. ขอแนะนำให้ท่านหมั่นเข้ามาอ่านและตรวจสอบประกาศนี้อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะก่อนที่ท่านจะส่งข้อมูลส่วนบุคคลให้ สปค.

 ทั้งนี้ หากท่านยังคงใช้งานระบบเรื่องร้องเรียนการทุจริต ของ สปค. ภายหลังจาก ที่ประกาศนี้ มีการปรับปรุงแก้ไขและได้มีการแสดงประกาศไว้ที่นี้แล้ว ถือว่าท่านยอมรับในประกาศฉบับที่ปรับปรุงแล้ว

10. การติดต่อสอบถาม

สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม
ที่อยู่ : สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม 38 ถนนราชดำเนินนอก แขวงวัดโสมนัส เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100
โทรศัพท์ : (+66) 0 2283 3000
โทรสาร : (+66) 0 2281 3959